No-Win-No-Fee คืออะไร?

           คือโครงสร้างการเก็บค่าบริการของเราที่ออกแบบมาให้คุณมั่นใจและไม่มีความเสี่ยงใดๆสำหรับคุณ ไม่ต้องจ่ายเงินก่อน ไม่ต้องกลัวเสียเงินเปล่าโดยไม่มีอะไรกลับคืน คุณจะจ่ายค่าบริการให้กับเราเมื่อเราเจรจาต่อรองให้คุณได้สำเร็จเท่านั้น  เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับคุณว่าทุกการต่อรองของเรา เราจะทำเต็มที่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ หากเราเจรจาไม่สำเร็จคุณก็ไม่ต้องจ่ายค่าบริการให้กับเรา  

การค่าบริการแบบเปอร์เซ็นต์ค่าบริการคงที่ หากเจรจาสำเร็จ คิดค่าบริการอย่างไร?

          หากเราเพิ่มค่าเช่าให้กับคุณได้ เราคิดค่าบริการแบบเปอร์เซ็นต์ค่าบริการคงที่ นั่นคือเราจะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากเงินที่เราเจรจาให้กับคุณได้ โดยจะคิดเป็น 100% จากค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น และจะเก็บค่าบริการแค่ในปีแรก ปีเดียวเท่านั้น

1. No-Win-No-Fee (ไม่ชนะไม่เก็บเงิน) 2. เปอร์เซ็นต์ค่าบริการคงที่

ใช้เมื่อ

- เจรจาต่อรองค่าเช่าไม่สำเร็จ

- ไม่ได้รับค่าเช่าเพิ่มขึ้น

- เจรจาต่อรองค่าเช่าสำเร็จ

- ได้รับค่าเช่าเพิ่มขึ้น

อัตราการเก็บค่าบริการ

- ไม่มีการเก็บค่าบริการ

- คิดค่าบริการตามสัดส่วนของค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นดังนั้น

หากคุณรู้สึกว่าคุณต้องจ่ายค่าบริการให้เรามากเท่าไหร่

ค่าเช่าที่คุณได้รับก็ยิ่งมากขึ้นไปด้วย

คิด 100% แบบนี้หมายความว่าคุณจะเสียค่าเช่าปีแรกไปหรือเปล่า?

          คุณจะได้รับค่าเช่าในปีแรก และในปีต่อๆไปอย่างแน่นอน ค่าบริการคือ ส่วนต่างจากค่าเช่าเดิม และค่าเช่าใหม่ที่เราเจรจาได้เท่านั้น หรือก็คือคุณจะได้ค่าเช่าในปีแรกเท่ากับค่าเช่าเดิมที่ไม่ได้ผ่านการเจรจา

ยกตัวอย่าง

          หากค่าเช่าเดิมของคุณคือ 120,000 บาท/ปี ตลอดระยะเวลาสัญญา 3 ปี และเราเจรจาแล้วได้ค่าเช่าใหม่ 180,000 บาท/ปี ตลอดระยะเวลาสัญญา 3 ปี ส่วนต่างจากค่าเช่าเดิมคือ 60,000  บาท ซึ่งค่าบริการทั้งหมดคือ 100% ของส่วนต่าง คือ 60,000 บาท โดยคิดแค่ปีแรก ปีเดียว เท่านั้น

ปีที่ ไม่มีการเจรจา ได้รับค่าเช่าเดิม (บาท) เทเลไวเซอร์เจรจาได้เพิ่ม 60,000 บาท จากค่าเช่าเดิม (บาท)

1

120,000
120,000 (จำนวนหลังหักค่าบริการ)
2
120,000
180,000
3
120,000
180,000
รวมทั้งหมด (บาท)
360,000
480,000

กกกกกจากตัวอย่าง จะเห็นได้ว่าสำหรับในส่วนของค่าเช่าใหม่ที่เราเจรจาให้โดยหักค่าบริการแล้วคุณจะได้รับอยู่ที่ 480,000 บาท ดังนั้นค่าเช่าที่คุณจะได้รับเพิ่มขึ้นคือ 480,000 – 360,000 = 120,000 บาท หรือ 33% ของค่าเช่าเดิม 

อย่าลืมว่า! “หากคุณรู้สึกว่าคุณต้องจ่ายค่าบริการให้เรามากเท่าไหร่ ค่าเช่าที่คุณได้รับก็ยิ่งมากขึ้นไปด้วย

          นอกจากค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นแล้ว ค่าเช่าที่ได้รับการเจรจานั้นจะเป็นค่าเช่าพื้นฐานที่ดีขึ้นสำหรับการเช่าในรอบสัญญาครั้งต่อไป ทำให้คุณได้รับค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นอีกตามค่าเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นจริง